การแก้ปัญหาราคายางพาราและปาล์มน้ำมันยังไม่จบสิ้น

กระทู้สนทนา
การแก้ปัญหาราคายางพาราและปาล์มน้ำมันยังไม่จบสิ้น
เพราะว่าผู้แก้ยังไม่เข้าใจปัญหาและที่มาของผลผลิต 2 ตัวนี้
ผมจะบอกตั้งแต่แรกเริ่มให้เลยว่า...

1. สวนยางพาราและปาล์มน้ำมันในภาคใต้เป็นของใคร??? 80 % เป็นของนายทุนที่สนับสนุนพรรคการเมืองภาคใต้
อีก 20 % เป็นของเกษตรกรรายย่อยทั่วๆไป

2. โรงงานแปรรูปยางพาราและปาล์มน้ำมันในภาคใต้เป็นของใคร???100 % เป็นของนายทุนที่สนับสนุนพรรคการเมืองภาคใต้


ทีนี้มาดูราคาผลผลิต 2 ตัวนี้ว่าใครเป็นคนกำหนด???

แรกเริ่มเดิมทีนายทุนของพรรคการเมืองนี้แหละเป็นผู้กำหนดโดยอ้างราคากลางจากประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเขามีต้นทุนที่ต่างกัน
แต่ความเป็นจริงเขากำหนดราคาของเกษตรกรให้เป็นผลผลิตอันดับ 2 ส่วนผลผลิตอันดับ 1 ซึ่งเป็นของเขาเอง และในเครือญาติ
ที่สามารถป้อนโรงงานได้เลยโดยไม่มีใครรู้ราคาต้นทุนและกำไรที่แท้จริง !!!!นอกจากพวกเขาเองเท่านั้น.........

หากโรงงานต้องการวัตถุดิบเพิ่ม จึงจะซื้อจากเกษตรกรในราคาที่ถูกกว่าเพราะเกษตกรไม่มีโรงงานจะขาย
และซื้อในฐานะวัตถุดิบสำรอง ส่วนพ่อค้ารายย่อยก็เป็นลิ่วล้อของเขา กดราคาซื้อในพื้นที่อีกทีหนึ่ง

จึงไม่แปลกเลยว่า...เมื่อพรรคการเมืองนี้เป็นรัฐบาล เขาสามารถกำหนดราคาให้สูงได้หากตลาดโลกราคาตกต่ำ
เพราะเขาจะได้เงินชดเชยส่วนต่างราคาเป็นจำนวนมาก และสามารถกักตุนสินค้าไว้ทำราคาได้ด้วย เช่นครั้งนี้ก็เหมือนกัน..

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ชดเชยส่วนต่างโลละ 5 บาท ถามว่าเกษตรกรมีผลผลิตวันละกี่พันโล จะได้เงินชดเชยกี่พันบาท นายทุนมีผลผลิตวันละกี่ล้านโล จะได้เงินชดเชยกี่ล้านบาท

สมมุติว่าสนับสนุนงบประมาณมาแก้ปัญหานี้ 1 หมื่นล้านบาท
เกษตรกรรายย่อยได้แค่ 2 พันล้าน ส่วนนายทุนได้ไป 8 พันล้าน ทำแบบนี้เขาเรียกว่า “เตะหมูเข้ายิ้ม” นะครับทั่น...555
…เกษตรกรที่ออกมาประท้วงเป็นผู้ตกหลุมพรางมาตั้งนานแล้ว

นอกจากนั้น..นายทุนเหล่านี้ยังมีระบบอุปถัมป์ค้ำชูในช่วงผลผลิตน้อยอีก (ฝนตกกรีดยางไม่ได้ หรือทะลายปาล์มขาดคอในฤดูแล้ง)
เกษตรกรไม่มีเงินใช้ ก็สามารถเบิกล่วงหน้าจากพ่อค้ารายย่อยไปก่อน ถึงฤดูกาลเลือกตั้ง พรรคการเมืองนี้เอาเสาไฟฟ้าลงสมัครชาวบ้านก็เลือก
มันเป็นอย่างนี้มานานแล้วครับพี่น้อง...

ทางออกเดียวครับ..รัฐบาล!!!

1. ตั้งโรงงานแปรรูปให้เกษตรกรในรูปแบบสหกรณ์หรือนิคมการเกษตรก็ได้
จังหวัดละกี่โรง ตามความเหมาะสมของพลังการผลิต

2. รับซื้อผลผลิตของเกษตรกรรายย่อยในราคาที่กำหนดเอง

3. ขายสินค้าแปรรูปให้รัฐบาลเอาไปสร้างถนน เขื่อน ฯลฯ (สากกะเบือยันเรือรบ)
คือใช้ในประเทศเสียก่อน

4. ที่ดินสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมันที่หมดสัญญาเช่าจากนายทุนพรรคนี้
ก็รีบนำมาจัดสรรให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน (รีบใช้อำนาจซะ ก่อนจะไม่ได้ใช้)
เพื่อแก้ปัญหาการถือครองพลังการผลิตรายใหญ่ (ที่ดิน+โรงงาน)

ข้อนี้ เกษตรกรไร้ที่ทำกินต่อสู้กันมาตั้งแต่ปี 2546 โน่น...ณ วันนี้ ยังไม่ได้ที่ดินสักแปลง
เพราะ...กลไกรัฐท้องถิ่นฮั้วกับนายทุนอิทธิพลรับผลประโยชน์

โดยเอาที่ดินที่หมดสัญญาไปแขวนไว้ที่ศาล เพื่อยืดลมหายใจในการเก็บผลอาสิน จนถูกเสื้อแดงต่อว่า
“ไม่ไปร่วมเรียกร้องประชาธิปไตยปี53” มัวแต่จะเอาที่ดิน
แมร่ง...หารู้ไม่ว่า กูกำลังทลายระบบทุนในระบอบศักดินาอยู่...555
....อีกไม่นานหรอกหนา...นายทุนรายใหญ่ก็หมดไป เกษตรกรรายย่อยก็เข้ามาแทนที่ พลังการผลิตก็เป็นของประชาชนที่แท้จริง
ระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ที่ใคร ๆ อยากได้ก็มาถึง เมื่อประชาชนกำหนดทุกสิ่งทุกอย่างได้เอง
เข้าใจไหมครับ...รัฐบาล

************

จากเฟสนี้

https://www.facebook.com/yutthana.meechai/posts/503855679708266
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่